รู้หรือไม่ว่าการใช้ฟรีอีเมลอย่าง gmail, yahoo หรือ hotmail ไม่ใช่เพียงแค่ทำให้ดูไม่เป็นมืออาชีพเท่านั้น แต่บริษัทของคุณกำลังจะสูญเสียโอกาสในการเป็นที่น่าจดจำต่อผู้บริโภค ยิ่งไปกว่านั้น ฟรีอีเมลนั้นไม่ปลอดภัยสำหรับการติดต่อกับลูกค้าของคุณอีกด้วย
ไม่อยากจะบอกว่า ทุกวันนี้ยังแอบเห็นบางบริษัทใช้ gmail แบบฟรีอยู่เลย และมักจะปรากฏอยู่บนเว็บไซต์บริษัท เฟซบุ๊ก นามบัตร หรือช่องทางการติดต่อต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันการสร้างอีเมลเป็นชื่อบริษัทนั้นทำง่ายขึ้นกว่าเดิม แต่ทำไมบางบริษัทถึงยังคงใช้ gmail แบบฟรีอยู่ อาจเป็นเพราะต้องการประหยัดงบประมาณ หรือใช้แบบเดิมก็ดีอยู่แล้วไม่มีปัญหาอะไร อย่างไรก็ตาม อยากให้คุณลองเปิดใจกับคำแนะนำเหล่านี้ หากคุณต้องการให้บริษัทเติบโตอย่างจริงจัง
1. ฟรีอีเมล เอื้อต่อการถูกแฮ็คได้ง่าย
เหล่าแฮ็คเกอร์นั้นชื่นชอบฟรีอีเมลมาก ยิ่งเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่อย่าง gmail, hotmail, yahoo ก็ยิ่งถูกเพ่งเล็งได้ง่ายขึ้น ซึ่งจากข้อมูลสถิติเมื่อปี 2015 มีจำนวนบัญชีที่ถูกโจรกรรมทางข้อมูลสูงถึง 272.3 ล้านชื่อผู้ใช้ และในปี 2016 เว็บไซต์ CNN ลงข่าวไว้ว่า บริษัท Yahoo ได้ออกแถลงการณ์ว่าระบบของบริษัทถูกแฮ็ค ส่งผลกระทบต่อข้อมูลผู้ใช้บริการกว่า 500 ล้านบัญชี โดยการแฮ็คครั้งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2015 แล้ว ซึึ่งข้อมูลที่หลุดออกไปประกอบด้วยชื่อ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ วันเกิด ค่าแฮชของรหัสผ่าน (เป็นแบบ bcrypt) รวมถึงในบางรายมีข้อมูลคำถามคำตอบสำหรับกู้คืนรหัสผ่านหลุดออกไปด้วย นอกจากนี้จากสถิติเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2016 พบว่า การแฮ็ค (Hacktivism) สูงถึง 17.6% เมื่อเทียบกับอาชญากรรมไซเบอร์ (Cyber Crime) และการสอบแนมทางไซเบอร์ (Cyber Espionage)
แฮ็คเกอร์ส่วนใหญ่จะแฮ็คเข้าอีเมลของเราเพื่อทำการส่งสแปม ไวรัส หรือแม้กระทั่งเนื้อหาเข้าข่ายลามกอนาจารไปยังรายชื่อเพื่อนในบัญชีของคุณ ซึ่งนั่นอาจหมายถึงลูกค้าของคุณ หรือผู้ร่วมงานคนอื่นๆ ด้วย น่ากลัวมากจริงๆ
2. ดูไม่โปรเฟสชันแนลเลย
เมื่อคุณดำเนินธุรกิจโดยใช้ฟรีอีเมลอยู่ ลูกค้าของคุณอาจกำลังมองว่าบริษัทของคุณเป็นแบบนี้อยู่หรือเปล่า
- บริษัทของคุณมีงบไม่พอในการสร้างอีเมลของบริษัท หรือสร้างเว็บไซต์ที่มีความเป็นมืออาชีพได้
- ในการส่งอีเมลแต่ละครั้ง ดูเหมือนมาจากอีเมลส่วนตัวมากกว่าอีเมลสำหรับธุรกิจ
- บริษัทของคุณมีการจัดการ หรือมีความเป็นมืออาชีพไม่เพียงพอในการจดชื่อโดเมนบริษัทของคุณ
- บริษัทของคุณไม่สนใจเรื่องความปลอดภัย
3. อีเมลของคุณที่ส่งไปให้ลูกค้า อาจถูกโยนเป็นสแปม
ตัวกรองสแปมส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักจะตรวจจับชื่อบัญชีที่มาจากฟรีอีเมลอย่าง gmail, yohoo หรือ hotmail นั่นก็เป็นเพราะว่าโดยทั่วไปแล้วนักส่งสแปมจะใช้ชื่อบัญชีที่เป็นฟรีอีเมลนั่นเอง ซึ่งเป็นวีธีที่ง่ายและไม่เสียเงินสักบาทเดียว ดังนั้นข้อมูลสำคัญที่ทางบริษัทส่งให้ลูกค้า หรือเพื่อนร่วมงาน ก็มีโอกาสกลายเป็นสแปมไปโดยปริยายได้เหมือนกัน
4. “ของฟรี” อาจหมายถึง “ไม่มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ”
เมื่อบริษัทของคุณเกิดปัญหาขึ้นจากการใช้ฟรีอีเมลในการทำธุรกิจ แล้วต้องการโทรไปขอความช่วยเหลือจากผู้ให้บริการ แอบกระซิบว่าพวกเขาจะไม่รับเรื่องของคุณแน่นอน รวมถึงอีกกว่าล้าน user ที่ใช้ฟรีอีเมลด้วย แต่หากคุณใช้บริการระบบอีเมลสำหรับธุรกิจโดยเฉพาะ คุณสามารถสอบถาม แจ้งปัญหา หรือขอคำแนะนำการใช้งานจากเจ้าหน้าที่ซัพพอร์ตได้เลย
5. คุณกำลังสูญเสียโอกาสในการทำการตลาด
“การใช้อีเมลที่เป็นชื่อบริษัทของคุณเอง คล้ายกับการแฝงโฆษณาสินค้าในภาพยนตร์เพื่อสร้างการจดจำต่อผู้บริโภค แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนั้นจะจบไปแล้วก็ตาม”
เมื่อคุณใช้อีเมลที่เป็นชื่อโดเมนบริษัทของคุณในการติดต่อทางธุรกิจแต่ละครั้งอย่างต่อเนื่อง จะเป็นการสร้างการจดจำต่อบริษัทของคุณได้อย่างดีเลยล่ะ คล้ายกับการทำการตลาดแบบไม่เสียเงิน แต่หากบริษัทของคุณไม่สนใจคว้าโอกาสส่วนนี้ไว้และยังใช้ฟรีอีเมลในการทำธุรกิจต่อไป อย่างเช่นใช้ฟรี gmail นั่นหมายความว่าคุณโฆษณาให้ gmail ไม่ใช่ธุรกิจของคุณเอง
และนี่ก็คือ 5 เหตุผลว่าทำไมจึงไม่ควรใช้ฟรีอีเมลในการทำธุรกิจ อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หลายท่านก็เริ่มที่จะสนใจขึ้นมาบ้าง สำหรับบริษัทเล็กๆ หรือบริษัทที่เพิ่งเริ่มทำธุรกิจอาจจะมองว่ามันจะคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่ ขอบอกว่าคุณจะได้อะไรที่มากกว่าคำว่าระบบอีเมลแน่นอน ซื้อ G Suite ที่ไหนดีสามารถติดต่อเรา บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที ผู้ให้บริการระบบอีเมล G Suite จาก Google เพื่อขอคำแนะนำ หรือสอบถามแพ็คเกจเริ่มต้นได้เลย
ที่มา – Press8
บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด ผู้ให้บริการ G Suite ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
(ตัวแทน Google ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ)
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมโปรโมชั่นพิเศษ โทร! 02-675-9371
092-262-6390
097-008-6314 (ฝ่ายขาย)
support@dmit.co.th
Official LINE