ข้อความอัตโนมัติ (Autocomplete) เป็นฟีเจอร์หนึ่งใน Google Search ที่ออกแบบมาเพื่อให้การค้นหารวดเร็วขึ้น ในโพสต์นี้เราจะมาทำความรู้จักฟีเจอร์นี้ให้มากขึ้น และดูกันว่าข้อความอัตโนมัติที่ว่านี้ทำงานอย่างไร
ข้อความอัตโนมัติ หรือ Autocomplete
ข้อความอัตโนมัติมีให้บริการเกือบทุกที่ที่คุณพบช่องค้นหาของ Google อย่างหน้าโฮมเพจของ Google แอป Google เช่น Youtube สำหรับ iOS และ Android ช่องค้นหาภายใน Android และ Chrome เมื่อลองพิมพ์ลงไปก็จะเห็นคีย์เวิร์ดมากมายปรากฏขึ้น หรือบางครั้ง Google จะช่วยเติมคำ และวลีให้สมบูรณ์ขณะที่เรากำลังพิมพ์อยู่
การเติมข้อความอัตโนมัติมีประโยชน์อย่างมากทั้งสำหรับผู้ที่ใช้ Google บนเดสก์ท็อปและโทรศัพท์มือถือ ที่ทำให้การค้นหาบนหน้าจอขนาดเล็กๆ เป็นเรื่องง่ายขึ้น รวมถึงช่วยประหยัดเวลาได้ดีทีเดียว
- โดยเฉลี่ยจะลดการพิมพ์ลงประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์
- Google คาดการณ์ว่าจะช่วยประหยัดเวลาในการพิมพ์ได้มากกว่า 200 ปีต่อวัน
“การคาดคะเน” ไม่ใช่ “คำแนะนำ”
ข้อความอัตโนมัติถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ทำการค้นหาคำที่ต้องการได้เร็วขึ้น ไม่ใช่การแนะนำคำใหม่ให้ ซึ่งนั่นจะทำให้ความหมายเปลี่ยนไปจากเดิม เป็นการคาดคะเนคีย์เวิร์ดที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้
Google กำหนดการคาดการณ์เหล่านี้ได้อย่างไร? คำตอบคือ Google ดูการค้นหาจริงที่เกิดขึ้นใน Google และแสดงรายการทั่วไป และรายการที่มีแนวโน้มที่เกี่ยวข้องกับตัวอักษรที่ป้อน นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่คุณอยู่ และการค้นหาก่อนหน้า
ทำไมการคาดคะเนบางคำจึงถูกลบ?
Google มีระบบที่ออกแบบมาเพื่อตรวจจับคำที่ไม่เหมาะสมโดยอัตโนมัติเพื่อไม่แสดงให้ผู้ใช้เห็น มีการประมวลผลการค้นหาหลายพันล้านครั้งต่อวัน ซึ่งอาจมีคำที่ไม่เหมาะสมบางคำเล็ดลอดเข้าไปในระบบได้ จึงต้องอาศัยการแจ้งรายงานคำที่ไม่เหมาะสม เพื่อให้ Google สามารถลบออกอย่างรวดเร็ว Google จะลบการคาดคะเนที่ขัดต่อนโยบายการเติมข้อความอัตโนมัติ ซึ่งมีดังนี้
- เกี่ยวกับเรื่องเพศที่ส่อไปในทางลามกอนาจาร ไม่เกี่ยวข้องกับหัวข้อทางการแพทย์ วิทยาศาสตร์ หรือเรื่องเพศศึกษา
- การแสดงความเกลียดชังต่อกลุ่มและบุคคลบนพื้นฐานของเชื้อชาติ ศาสนา หรือประชากรอื่นๆ
- ความรุนแรง
- กิจกรรมที่เป็นอันตราย
- การคาดการณ์ที่ Google พิจารณาว่าเป็นสแปมที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดลิขสิทธิ์ หรือเพื่อตอบสนองต่อคำขอทางกฎหมาย
ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่ทำให้การค้นหายอดนิยมตามที่วัดในเครื่องมือ Google Trends อาจไม่ปรากฏในการเติมข้อความอัตโนมัติ Google Trends ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนสามารถดูความนิยมของหัวข้อการค้นหาได้ตลอดเวลา นโยบายลบการเติมข้อความอัตโนมัติจึงไม่ได้ใช้สำหรับ Google Trends
วิธีแจ้งรายงานเมื่อพบคำจากการคาดคะเนที่ไม่เหมาะสม
ด้วยการคาดการณ์หลายพันล้านครั้งที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ระบบอาจตรวจจับคำที่ไม่เหมาะสมได้อย่างครอบคลุมทุกคำ หากคุณพบเห็นคำเหล่านั้น สามารถคลิกที่ลิงก์ “แจ้งการคาดคะเนที่ไม่เหมาะสม” ซึ่งจะปรากฏอยู่ใต้ช่องค้นหาบนเดสก์ท็อป
สำหรับผู้ใช้งานบนมือถือหรือใช้แอป Google สำหรับ Android กดค้างที่คาดคะเนเพื่อแสดงตัวเลือกการรายงาน ส่วนผู้ที่ใช้แอป Google บน iOS สามารถปัดไปทางซ้ายเพื่อเปิดตัวเลือกการรายงาน
อย่างไรก็ตามการคาดคะเนที่ไม่เหมาะสมอาจไม่ได้หายไปในทันที Google จะพิจารณาว่าการคาดคะเนที่รายงานเข้ามานั้นละเมิดนโยบายจริง และจัดหาโซลูชั่นที่กว้างขึ้น
สร้างประสบการณ์การใช้คำอัตโนมัติให้ดียิ่งขึ้น
ดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นว่าการคาดคะเนคีย์เวิร์ดจะแสดงในช่องค้นหาซึ่งมีในเดสก์ท็อป บนมือถือ ไปจนถึงในแอปของ Google ซึ่งลักษณะที่ปรากฏการคาดคะเนอาจแตกต่างกันไปตามนี้ เช่น เมื่อคุณใช้ Google บนเดสก์ท็อป โดยทั่วไปคุณจะเห็นการคาดคะเนได้ถึง 10 แบบ ในขณะที่บนอุปกรณ์มือถือคุณจะเห็นได้เพียง 5 แบบ เนื่องจากพื้นที่หน้าจอที่น้อยลง
การคาดคะเนก็จะแตกต่างกันไปเนื่องจากคุณอาจมีการค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องในอดีต Google จะเลือกแสดงสิ่งเหล่านี้เพื่อช่วยให้คุณกลับไปสู่การค้นหาก่อนหน้าได้อย่างรวดเร็ว
คุณสามารถบอกได้ว่าการค้นหาที่ผ่านมาปรากฏขึ้นหรือไม่ บนเดสก์ท็อปคุณจะเห็นคำว่า “ลบ” ปรากฏขึ้นถัดจากคีย์เวิร์ด คลิกที่คำนั้นหากคุณต้องการลบการค้นหาที่ผ่านมา
บนมือถือคุณจะเห็นไอคอนรูปนาฬิกาทางด้านซ้ายและปุ่ม X ทางด้านขวา คลิกที่ X เพื่อลบการค้นหาที่ผ่านมา ในแอปของ Google App คุณจะเห็นไอคอนนาฬิกาเช่นเดียวกัน หากต้องการลบ บน Android ให้กดค้างที่คำนั้น สำหรับ iOS ให้ปัดไปทางซ้ายเพื่อเปิดตัวเลือกการลบ
นอกจากนี้คุณยังสามารถลบการค้นหาที่ผ่านมาทั้งหมดของคุณ หรือลบตามวันที่เฉพาะเจาะจง หรือตามเงื่อนไขใน My Activities ในบัญชี Google ของคุณก็ได้
ที่มา – Google Blog
G Suite เพื่อการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด
พาร์ทเนอร์ Google ในประเทศไทย อย่างเป็นทางการ